ก้าวสู่ Smart Living อย่างเป็นรูปธรรม ด้วยแนวทางใช้เทคโนโลยียกระดับสาธารณสุขชุมชนจากท้องถิ่นทั่วไทย

Smart Living หรือ การดำรงชีวิตอัจฉริยะ คือมิติหนึ่งของการพัฒนาเมืองอัจฉริยะ (Smart City) ของสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (depa) ที่มุ่งสร้างให้ประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดี สุขภาพแข็งแรง ปลอดภัย และมีความสุขในการใช้ชีวิต
องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นซึ่งมีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อน Smart Living ให้เกิดขึ้นจริง จึงควรเริ่มจากด้านสาธารณสุขและการดูแลสุขภาพที่เป็นปัจจัยพื้นฐานในการสร้างสุขภาพและคุณภาพชีวิตที่ดี ด้วยการนำเทคโนโลยีและแพลตฟอร์มดิจิทัลมาเป็นเครื่องมือสนับสนุนการยกระดับบริการและลดความเหลื่อมล้ำด้านสาธารณสุขชุมชน โดยคู่มือพัฒนาเมืองอัจฉริยะ จากเบดร็อค อนาไลติกส์ ได้แบ่งองค์ประกอบพื้นฐานของระบบและอุปกรณ์ที่ใช้พัฒนาออกเป็น 4 กลุ่มหลัก เพื่อให้ท้องถิ่นสามารถนำไปใช้เป็นแนวทางในการพัฒนาเมืองให้ตอบโจทย์ประชาชน
1. กลุ่มระบบโทรเวชกรรม (Telemedicine)
ระบบโทรเวชกรรม (Telemedicine) หนึ่งในเทคโนโลยีที่ช่วยยกระดับ Smart Living ในระดับท้องถิ่น เพื่อแก้ปัญหาให้ประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ห่างไกลหรือมีบุคลากรด้านสาธารณสุขไม่เพียงพอ โดยเป็นระบบที่เปิดโอกาสให้ประชาชนเข้าถึงบริการด้านสุขภาพผ่านวิดีโอคอลกับแพทย์หรือบุคลากรทางการแพทย์ ไม่ว่าจะเป็นการให้คำปรึกษา วินิจฉัยโรค ติดตามอาการ รับคำแนะนำแนวทางการดูแลสุขภาพ และป้องกันโรค ซึ่งจะทำให้ประชาชนเข้าถึงการรักษาได้อย่างต่อเนื่อง ทั่วถึง และเท่าเทียมมากขึ้น
ตัวอย่างเช่น
องค์การบริหารส่วนจังหวัดลำปาง (อบจ.ลำปาง)
โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) สังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดลำปาง (อบจ.ลำปาง) ภายใต้การสนับสนุนของหน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการพัฒนาระดับพื้นที่ (บพท.) ได้นำระบบโทรเวชกรรมเข้ามาประยุกต์ใช้ในระบบสุขภาพช่วยให้ประชาชนสามารถเข้าถึงบริการสุขภาพที่จำเป็นได้อย่างสะดวก รวดเร็ว และมีประสิทธิภาพ รวมถึงเกิดการเข้าถึงได้อย่างทั่วถึงและเป็นธรรม โดยเฉพาะประชาชนกลุ่มเปราะบางในพื้นที่ห่างไกลและทุรกันดาร
2. อุปกรณ์สวมใส่เพื่อป้องกันเหตุฉุกเฉิน
กลุ่มอุปกรณ์สวมใส่เพื่อป้องกันเหตุฉุกเฉิน เป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการผลักดันด้านการดำรงชีวิตอัจฉริยะ โดยช่วยดูแลกลุ่มเปราะบางอย่างผู้สูงอายุ ผู้ป่วยเรื้อรัง หรือผู้พิการได้อย่างใกล้ชิด ซึ่งเป็นเทคโนโลยีด้านสุขภาพที่ช่วยติดตามกิจกรรมทางกายและสภาวะสุขภาพของผู้สวมใส่แบบเรียลไทม์ ทั้งการวัดชีพจร ความดันโลหิต หรือการล้ม พร้อมวิเคราะห์ข้อมูลสุขภาพและติดตามการฟื้นฟูร่างกายของผู้ป่วย อีกทั้งยังสามารถส่งสัญญาณแจ้งเตือนไปยังเจ้าหน้าที่หรือญาติได้ทันทีเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน เช่น นาฬิกาอัจฉริยะ สายห้อยคอฉุกเฉิน เป็นต้น
เทศบาลเมืองแสนสุข จ.ชลบุรี
เทศบาลเมืองแสนสุขได้นำระบบแจ้งเตือนเหตุฉุกเฉินมาติดตั้งในที่อยู่อาศัยของผู้สูงอายุ ประกอบด้วยสายรัดข้อมือส่งสัญญาณ อุปกรณ์แจ้งเตือนในห้องน้ำ อุปกรณ์ตรวจจับแก๊สรั่ว และแอปพลิเคชันสำหรับแจ้งเหตุฉุกเฉิน โดยระบบจะตรวจจับและบันทึกความเคลื่อนไหวของผู้สวมใส่ พร้อมแจ้งเตือนอัตโนมัติไปยังเจ้าหน้าที่เทศบาลและญาติเมื่อพบความผิดปกติ เพื่อเข้าช่วยเหลือได้ทันท่วงที
3. ชุดอุปกรณ์ตรวจคัดกรองสุขภาพเบื้องต้นสำหรับเจ้าหน้าที่สาธารณสุขและ อสม.
การพัฒนา Smart Living ในระดับท้องถิ่น ไม่ได้มุ่งเพียงให้ประชาชนมีสุขภาพดี แต่ยังต้องลดภาระและเพิ่มประสิทธิภาพให้เจ้าหน้าที่สาธารณสุขและ อสม. ด้วย การนำชุดอุปกรณ์ตรวจคัดกรองสุขภาพเบื้องต้นสำหรับเจ้าหน้าที่สาธารณสุขและ อสม. มาใช้ตรวจสุขภาพเบื้องต้น เช่น การตรวจวัดอุณหภูมิร่างกาย ค่าน้ำตาลในเลือด และค่าความดันโลหิต จะช่วยให้เจ้าหน้าที่สามารถตรวจวัดสุขภาพ เพื่อส่งเสริมสุขภาพและการป้องกันโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (NCDs) ในชุมชนเป็นระบบและครอบคลุมมากขึ้น อีกทั้งยังเพิ่มความแม่นยำ ความรวดเร็ว และลดข้อผิดพลาดจากการบันทึกข้อมูลอีกด้วย
เทศบาลนครขอนแก่น จ.ขอนแก่น
เทศบาลนครขอนแก่นได้จัดทำโครงการพัฒนาศักยภาพอาสาสมัครสาธารณสุขหมู่บ้าน (อสม.) ในพื้นที่ชุมชนทุ่งเศรษฐี โดยลงพื้นที่พร้อมชุด Care Kit เพื่อตรวจคัดกรองโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง พร้อมเก็บและเชื่อมโยงข้อมูลเข้าสู่ฐานข้อมูลสุขภาพชุมชน หลังดำเนินโครงการ พบว่าสุขภาพของประชาชนในชุมชนดีขึ้น ลูกบ้านเข้าถึงการตรวจสุขภาพได้สะดวก ประหยัดค่าใช้จ่าย และติดตามข้อมูลสุขภาพของตนเองง่ายขึ้น
4. แพลตฟอร์มสุขภาพอัจฉริยะสำหรับ รพ.สต.
แพลตฟอร์มสุขภาพอัจฉริยะสำหรับ รพ.สต. เป็นอีกเครื่องมือสำคัญในการขับเคลื่อน Smart Living และ Smart Governance ในระดับท้องถิ่น โดยช่วยบริหารจัดการข้อมูลสุขภาพระดับปฐมภูมิแบบรวมศูนย์ ผสานการใช้เทคโนโลยีและการลงพื้นที่ของเจ้าหน้าที่สาธารณสุข และ อสม. ทำให้สามารถจัดเก็บ วิเคราะห์ และแสดงข้อมูลสาธารณสุขในรูปแบบที่เข้าใจง่าย ติดตามสถานการณ์ได้แบบเรียลไทม์ ตลอดจนสนับสนุนการตัดสินใจในการวางแผนและปฏิบัติงานเชิงรุกด้านดูแลสุขภาพประชาชน จึงนับเป็นระบบที่เพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารและการให้บริการด้านสาธารสุขชุมชนได้อย่างครอบคลุม
องค์การบริหารส่วนจังหวัดกระบี่ จ.กระบี่
อบจ.กระบี่ ร่วมกับ เบดร็อค อนาไลติกส์ พัฒนาแพลตฟอร์มสุขภาพอัจฉริยะ โดยได้รับการสนับสนุนทุนจากหน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการพัฒนาระดับพื้นที่ (บพท.) ภายใต้กรอบงานวิจัย “การใช้แพลตฟอร์มดิจิทัลเป็นเครื่องมือในการยกระดับและเสริมศักยภาพขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น” เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดเก็บและบริหารข้อมูลของโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) และข้อมูลในแต่ละกองของ อบจ.กระบี่ โดยพัฒนาเป็นระบบกลางเพื่อใช้บริหารจัดการข้อมูลด้านสุขภาพของ รพ.สต. ในสังกัดอย่างเป็นระบบและเชื่อมโยงกัน
เทศบาลเมืองบึงยี่โถ จ.ปทุมธานี
เทศบาลเมืองบึงยี่โถ จ.ปทุมธานี ร่วมกับ เบดร็อค อนาไลติกส์ พัฒนาแพลตฟอร์มดิจิทัลข้อมูลเมือง (City Digital Data Platform: CDDP) เพื่อใช้ในการสนับสนุนและเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการข้อมูลด้านสาธารณสุขของเทศบาล ซึ่งเป้นพื้นฐานสำคัญในการสร้างศูนย์สุขภาพชุมชน ทั้งการรวบรวม จัดเก็บ และแสดงรายงานด้านสาธารณสุข ทั้งการดูแลปฐมภูมิ การดูแลผู้สูงอายุ และการดูแลกลุ่มเปราะบาง อีกทั้งยังใช้ในการติดตามอาการ เฝ้าระวังผู้ป่วยพึ่งพิงแต่ละประเภท วางแผนดูแล และกระจายความช่วยเหลือจาก อสม. ได้
การพัฒนาด้านสาธารณสุขและการดูแลสุขภาพชุมชนด้วยเทคโนโลยี ถือเป็นรากฐานสำคัญของการสร้าง Smart Living หรือ การดำรงชีวิตอัจฉริยะ ที่ช่วยสร้างสุขภาวะที่ดี ความปลอดภัย และคุณภาพชีวิตที่ยั่งยืน หากสนใจดูตัวอย่างเทคโนโลยีเพื่อพัฒนาท้องถิ่นอัจฉริยะในด้านอื่น ๆ เพิ่มเติม สามารถดาวน์โหลดคู่มือพัฒนาท้องถิ่นอัจฉริยะได้ฟรี จาก เบดร็อค อนาไลติกส์ เพื่อเป็นแนวทางในการขับเคลื่อนเมืองของสู่ความอัจฉริยะอย่างรอบด้านได้เลย